เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2552 รอบตัดสิน เพื่อเฟ้นหานางสาวไทยคนที่ 45 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทอแสงงามแห่งจิตใจ” พร้อมดำรงตำแหน่งทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว โดยมี “วู้ดดี้” หรือ วุฒิธร มิลินทจินดา เป็นพิธีกร
บรรยากาศการประกวดในรอบตัดสิน มีพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้เข้าประกวดมาให้กำลังใจจนแน่นโรงละคร สาวงามทั้ง 18 คน เปิดตัวด้วยการแสดงในรูปแบบบรอดเวย์ ในชุดราตรีสั้นตัดเย็บจากผ้าฝ้ายทอมือพิมพ์ลายในลวดลายดอกไม้หลากพันธุ์ จากร้านจิตรลดา สร้างสีสันให้กับการปรากฏตัวของสาวงามผู้เข้าประกวด
หลังจากนำเข้าช่วงวีทีอาร์เผย แพร่บรรยา กาศระหว่างการเก็บตัวของผู้เข้าประกวด 18 คน ที่พัทยา ชลบุรี สาวงามทั้ง 18 คน ปรากฏตัวอีกครั้ง และพิธีกรประกาศผลรางวัลอื่นๆ รวมทั้งรางวัลพิเศษจากผู้สนับสนุนการจัดงาน ได้แก่ ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ พ่วงด้วยรางวัลมิสเฮลตี้ (Miss Healthy) รางวัลมิสปริ๊นเซส (Miss Princess) และรางวัลนางงามบุคลิกภาพ ส่วนมิสธิงก์ โพสิทีฟ (Miss Think Positive) ได้แก่ หมายเลข 15 น.ส.นิษฐกานต์ สาธร นางงามมิตรภาพ ได้แก่ หมายเลข 16 น.ส.กฤตยา วงศ์สุรินทร์ มิสอินเทลิเจนต์ (Miss Intelligent) ได้แก่ หมายเลข 2 น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ และนางงามผิวสวย ได้แก่ หมายเลข 12 น.ส. กานต์พิชชา พิชยศ
ตามด้วยการประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คน ได้แก่ หมายเลข 1 น.ส.สรินยา ทองงอก หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หมาย เลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี หมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น หมายเลข 11 น.ส.พรพรรณ ฤกษ์อัตการ หมายเลข 12 น.ส.กานต์พิชชา พิชยศ หมายเลข 13 น.ส.กังสดาล ยิ้มอยู่ หมายเลข 14 น.ส.ปวริศา วสุธาสวัสดิ์ หมายเลข 17 น.ส.ชญานิศา จงรัตนจินดา หมายเลข 18 น.ส.ราตรีเฉลิม เดชบุญญภิชาติ
จากนั้นสาวงามทั้ง 10 คน เผยโฉมอีกครั้งในชุดราตรียาวตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายทอลายยกดอกจากร้านจิตรลดา และเข้าสู่ช่วงสัมภาษณ์ ก่อนจะประกาศสาวงามรอบ 3 คนสุดท้าย ในเวลา 22.20 น. ได้แก่ หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หมายเลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี หมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสัมภาษณ์คณะกรรมการใช้คำถามเดียวกันหมดว่า หากได้รับตำแหน่งนางสาวไทยและมีโอกาสนำเสนอแนว คิดต่อนายกรัฐมนตรีจะใช้จิตวิทยาอย่างไรที่จะโน้มน้าวให้สนับสนุนแนวคิดของ ตนเอง หมาย เลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ ตอบว่าเหตุผลเท่านั้นที่นายกฯ จะฟัง แนวทางที่จะพัฒนาศักยภาพให้ยั่งยืนได้คือการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพราะทุกคนมีคุณค่า และศักดิ์ศรีในตัวเอง
ด้านหมายเลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ตอบว่า ไม่ว่าจะใช้กลใด สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องไปด้วยใจที่มุ่งมั่น ไปด้วยความตั้งใจ และความปรารถนาสิ่งที่ดีแล้วท่านจะน้อมรับ ส่วนหมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น ตอบว่า ตนเองไม่ได้มีต้นทุนทางสังคมเหมือนคนอื่น ในฐานะคนที่เป็นผู้บริหารอาจมองไม่เห็น อยากให้ท่านนายกฯ ลองคิดว่าถ้าท่านเป็นคนธรรมดาอยากจะได้อะไร แล้วจะรู้ว่าสังคมต้องการอะไร
กระทั่งเวลา 23.00 น. นาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศผลตัดสิน เริ่มจาก รองอันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข 6 “น้องแนนต์” น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น รองอันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 4 “น้องเพื่อน” น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี และนางสาวไทย ประจำปี 2552 ได้แก่ หมายเลข 3 “น้องโจอี้” น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ รับมงกุฎเพชร สายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ เงินรางวัล 1 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ
สำหรับประวัติ “น้องโจอี้” น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทยคนล่าสุด อายุ 20 ปี เป็นชาวสระบุรี ส่วนสูง 167 ซ.ม. น้ำหนัก 51 ก.ก. เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคม สงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ความสามารถพิเศษ ร้องเพลง เชียร์ลีดเดอร์ เล่นสควอช โดยเปิดใจก่อนหน้านี้ว่าตำแหน่งนางสาวไทยเป็นความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในชีวิต
ด้านนางสิริภาวดี ศิริวรรณ มารดา “น้องโจอี้” กล่าวว่า ลูกสาวคว้ามาถึง 5 รางวัลรู้สึกภูมิใจมาก เพราะลูกอายุยังน้อย และไม่มีประสบการณ์ในการประกวดมาก่อน แม่เป็นผู้สนับสนุนในการประกวดครั้งนี้ ตอนวัยเด็กน้องโจอี้มีแววเป็นนางงาม เพราะทำกิจกรรมมาตลอด ล่าสุดเป็นดาวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังเป็นลีดเดอร์ให้คณะด้วย อุปนิสัยส่วนตัวของน้องเป็นลูกที่กตัญญูมาก ทราบว่าแม่ไม่ค่อยแข็งแรงจะช่วยขับรถให้เสมอ และเป็นคนเรียบง่าย ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ทำไร่ส้มอยู่ที่รังสิตและจ.กำแพงเพชร เป็นธุรกิจของครอบครัว น้องโจอี้เป็นบุตรสาวคนที่สอง จากลูกสาวทั้งหมด 4 คน
ส่วน “น้องโจอี้” เปิดใจอีกครั้งว่า ดีใจและเป็นเกียรติมากที่รับรางวัลอันทรงเกียรติ ตอนแรกไม่ได้คาดหวังเพราะเพื่อนทุกคนมีความสามารถ คิดว่ารอยยิ้มและความเป็นตัวของตัวเองที่ชนะใจกรรมการ จากนี้ไปจะตั้งใจทำงานเพื่อสังคม พุ่งเป้าช่วยเหลือไปที่เด็กเพราะเป็นพื้นฐานทางสังคม และตนก็เรียนทางด้านสังคมสงเคราะห์ คุ้นเคยและมีความรู้ดีพอช่วยเหลือสังคมในเชิงลึกได้ ตอนนี้พร้อมและจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ก่อนเข้ามาประกวดไปขอไว้กับอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ใน ร.ร.วชิราวุธวิทยาลัย หากมีโอกาสได้ทำงานทางด้านวงการบันเทิงก็ถือเป็นโอกาสและพร้อมจะรับไว้ และทำโอกาสนั้นให้ดีที่สุด
สำหรับ นางงามที่ประทับใจคือ “ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เป็นผู้หญิงทันสมัย เป็นทั้งพิธีกรและทำงานเพื่อสังคม ส่วนการมาประกวดครั้งนี้มีแม่เป็นคนผลักดันอยากให้ลองมาประกวดเวทีนางสาวไทย ที่สำคัญเวทีนี้ไม่ต้องสวมชุดว่ายน้ำ สำหรับหญิงไทยในความคิดของโจอี้มีรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าคนไทยจะยิ้มไม่สดใสเท่าไหร่เพราะสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่เมื่อคนไทยยิ้มจะเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างสัมภาษณ์ “น้องโจอี้” ต่อสายโทรศัพท์คุยกับคุณพ่อนายธีระพล กนกนทีสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร โดยโจอี้บอกกับคุณพ่อว่า “อยากกอดป๊า”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น