เป้ย ปาน วาด ชุดชั้นใน sexy bikini sexy motor show 2010 ชุดชั้นใน sexy bikini sexy Motor Show 2010 ชุดชั้นใน sexy bikini sexy motor show 2010

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Leah Dizon ....เซ็กซี่

Leah Dizonประวัติ Leah Dizon ลีอาห์ ดิซอน..เซ็กซี่ไอดอล
Leah Dizon ลีอาห์ ดิซอน..เซ็กซี่ไอดอล
วันนี้ ลีอาห์ ดิซอน สาวลูกผสมเชื้อสายจีน-ฟิลิปปินส์-ฝรั่งเศส


Leah Dizonประวัติย่อๆ ของ ลีอาห์ ดิซอน
ชื่อ ลีอาห์ ดิซอน
ชื่อจริง ลีอาห์ ดอนนา ดิซอน

วันเกิด 24 กันยายน 1986
ส่วนสูง 167 เซนติเมตร
กรุ๊ปเลือด โอ

ลีอาห์ ดิซอน หรือในชื่อเต็มว่า ลีอาห์ ดอนนา ดิซอน เกิดเมื่อ 24 กันยายน 1986 เป็นนางแบบ นักร้อง และแขกรับเชิญในรายการโทรทัศน์ต่างๆ ในญี่ปุ่น เธอเกิดที่ลาสเวกัส เนวาดา มีพี่ชายสองคน พี่สาวหนึ่งคน และน้องชายอีกสองคน เลือดกรุ๊ปโอ และมีเชื้อสายจีน ฟิลิปิโน และฝรั่งเศส

ลีอาห์ ดิซอน ประสบความสำเร็จพอสมควรในอเมริกา โดยเฉพาะการได้ขึ้นปกนิตยสารรถยนต์นำเข้าหลายๆ ฉบับ อย่างไรก็ตาม งานถ่ายแบบของเธอในอเมริกาก็ทำให้เธอเป็นที่สนใจอย่างมากและมีฐานแฟนเพลงใน ต่างประเทศที่กว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย หนึ่งปีหลังจากที่ภาพถ่ายวาบหวิวเซ็กซี่ของเธอถูกเผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ต ชื่อของเธอก็ถูกค้นหาด้วยเซิร์ชเอ็นจิ้นต่างๆ กว่าสองล้านครั้ง จากคำแนะนำของแฟนๆ ลีอาห์ ดิซอน ทำการส่งเดโมเทปพร้อมภาพงานถ่ายแบบของเธอไปให้กับเอเยนซีแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น แล้วในเดือนเมษายน 2006 หลังจากที่เธอถูกตอบรับเข้าสังกัด เธอก็โยกย้ายไปยังโตเกียวในทันที แล้วในเดือนตุลาคม 2006 เธอก็ออกโฟโต้บุ๊กเล่มแรกของเธอ Petite Amie (Girlfriend ในภาษาฝรั่งเศส) ซึ่งกลายเป็นโฟโต้บุ๊กที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามของปีนั้นเลยทีเดียว

ลีอาห์ ดิซอน เริ่มต้นการเป็นนักร้องของเธอภายใต้สังกัด Victor Entertainmentโดยที่เธอถูกแปลงโฉมใหม่จนดูเหมือนเป็นคนญี่ปุ่น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ได้มีเชื้อสายญี่ปุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2007 เธอก็ออกซิงเกิลซีดีเพลงแรก (พร้อมดีวีดี) Softly (VIZL-216) ซึ่งขึ้นถึงอันดับ #7 บนชาร์ต Oricon Weekly พร้อมกันนั้น เธอก็ออกโฟโต้บุ๊กเล่มที่สองของเธอ Hello! Leah มาด้วย

30 พ.ค. 2007 ลีอาห์ ดิซอน ออกซิงเกิลเพลงที่สอง Koi Shiyo ซึ่งขึ้นถึงอันดับ #7 บนชาร์ต Oricon Weekly อีกเช่นกัน ซิงเกิลนี้ได้รับการอธิบายไว้ว่าเป็น ‘เพลงแดนซ์สนุกๆ ชวนขยับ’ และซิงเกิลนี้ยังมีเพลงบี-ไซด์มาอีก 2 เพลง ได้แก่ Could You Be That One? และ アイシテル~ Love Story ตัวเพลง Koi Shiyou นั้นถูกใช้ประกอบโฆษณาโทรทัศน์ของ Lotte ส่วน Could You Be That One? ถูกใช้ประกอบโฆษณาโทรทัศน์เกม Ninja Gaiden Sigma ของ PlayStation 3 โดยที่ลีอาห์นั้นแสดงในโฆษณาทั้งสองตัวนี้ ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2007 ลีอาห์ ดิซอน เป็นผู้มอบรางวัลวิดีโอชายยอดเยี่ยมในงาน MTV Video Music Awards Japan

ลีอาห์ จะออกอัลบัมชุดแรกของเธอ "Destiny Line" ในวันที่ 12 กันยายน 2007 โดยจะออกเป็นแพ็กเกจซีดี ดีวีดี ซึ่ง 14 เพลงในชุดนี้ ลีอาห์แต่งเพลงด้วยตนเองถึง 10 เพลงด้วยกัน

Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon
Leah Dizon

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

น้องโจอี้ นางสาวไทย 2552

น้องโจอี้นางสาวไทย“น้อง โจอี้” น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ คว้าตำแหน่งนาง สาวไทย เผยประวัติศึกษาอยู่ชั้นปี 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ สาวงามจากเมืองสระบุรีเปิดใจตำแหน่งนางสาวไทยเป็นความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่ สุดในชีวิต ส่วนรองอันดับ 1 เป็น “น้องเพื่อน” น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี

เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2552 รอบตัดสิน เพื่อเฟ้นหานางสาวไทยคนที่ 45 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทอแสงงามแห่งจิตใจ” พร้อมดำรงตำแหน่งทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว โดยมี “วู้ดดี้” หรือ วุฒิธร มิลินทจินดา เป็นพิธีกร

บรรยากาศการประกวดในรอบตัดสิน มีพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้เข้าประกวดมาให้กำลังใจจนแน่นโรงละคร สาวงามทั้ง 18 คน เปิดตัวด้วยการแสดงในรูปแบบบรอดเวย์ ในชุดราตรีสั้นตัดเย็บจากผ้าฝ้ายทอมือพิมพ์ลายในลวดลายดอกไม้หลากพันธุ์ จากร้านจิตรลดา สร้างสีสันให้กับการปรากฏตัวของสาวงามผู้เข้าประกวด

หลังจากนำเข้าช่วงวีทีอาร์เผย แพร่บรรยา กาศระหว่างการเก็บตัวของผู้เข้าประกวด 18 คน ที่พัทยา ชลบุรี สาวงามทั้ง 18 คน ปรากฏตัวอีกครั้ง และพิธีกรประกาศผลรางวัลอื่นๆ รวมทั้งรางวัลพิเศษจากผู้สนับสนุนการจัดงาน ได้แก่ ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ พ่วงด้วยรางวัลมิสเฮลตี้ (Miss Healthy) รางวัลมิสปริ๊นเซส (Miss Princess) และรางวัลนางงามบุคลิกภาพ ส่วนมิสธิงก์ โพสิทีฟ (Miss Think Positive) ได้แก่ หมายเลข 15 น.ส.นิษฐกานต์ สาธร นางงามมิตรภาพ ได้แก่ หมายเลข 16 น.ส.กฤตยา วงศ์สุรินทร์ มิสอินเทลิเจนต์ (Miss Intelligent) ได้แก่ หมายเลข 2 น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ และนางงามผิวสวย ได้แก่ หมายเลข 12 น.ส. กานต์พิชชา พิชยศ

ตามด้วยการประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คน ได้แก่ หมายเลข 1 น.ส.สรินยา ทองงอก หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หมาย เลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี หมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น หมายเลข 11 น.ส.พรพรรณ ฤกษ์อัตการ หมายเลข 12 น.ส.กานต์พิชชา พิชยศ หมายเลข 13 น.ส.กังสดาล ยิ้มอยู่ หมายเลข 14 น.ส.ปวริศา วสุธาสวัสดิ์ หมายเลข 17 น.ส.ชญานิศา จงรัตนจินดา หมายเลข 18 น.ส.ราตรีเฉลิม เดชบุญญภิชาติ

จากนั้นสาวงามทั้ง 10 คน เผยโฉมอีกครั้งในชุดราตรียาวตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายทอลายยกดอกจากร้านจิตรลดา และเข้าสู่ช่วงสัมภาษณ์ ก่อนจะประกาศสาวงามรอบ 3 คนสุดท้าย ในเวลา 22.20 น. ได้แก่ หมายเลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หมายเลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี หมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสัมภาษณ์คณะกรรมการใช้คำถามเดียวกันหมดว่า หากได้รับตำแหน่งนางสาวไทยและมีโอกาสนำเสนอแนว คิดต่อนายกรัฐมนตรีจะใช้จิตวิทยาอย่างไรที่จะโน้มน้าวให้สนับสนุนแนวคิดของ ตนเอง หมาย เลข 3 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ ตอบว่าเหตุผลเท่านั้นที่นายกฯ จะฟัง แนวทางที่จะพัฒนาศักยภาพให้ยั่งยืนได้คือการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพราะทุกคนมีคุณค่า และศักดิ์ศรีในตัวเอง

ด้านหมายเลข 4 น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ตอบว่า ไม่ว่าจะใช้กลใด สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องไปด้วยใจที่มุ่งมั่น ไปด้วยความตั้งใจ และความปรารถนาสิ่งที่ดีแล้วท่านจะน้อมรับ ส่วนหมายเลข 6 น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น ตอบว่า ตนเองไม่ได้มีต้นทุนทางสังคมเหมือนคนอื่น ในฐานะคนที่เป็นผู้บริหารอาจมองไม่เห็น อยากให้ท่านนายกฯ ลองคิดว่าถ้าท่านเป็นคนธรรมดาอยากจะได้อะไร แล้วจะรู้ว่าสังคมต้องการอะไร

กระทั่งเวลา 23.00 น. นาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศผลตัดสิน เริ่มจาก รองอันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข 6 “น้องแนนต์” น.ส.วรวิตา จันทร์หุ่น รองอันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 4 “น้องเพื่อน” น.ส.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี และนางสาวไทย ประจำปี 2552 ได้แก่ หมายเลข 3 “น้องโจอี้” น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ รับมงกุฎเพชร สายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ เงินรางวัล 1 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ

สำหรับประวัติ “น้องโจอี้” น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทยคนล่าสุด อายุ 20 ปี เป็นชาวสระบุรี ส่วนสูง 167 ซ.ม. น้ำหนัก 51 ก.ก. เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคม สงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ความสามารถพิเศษ ร้องเพลง เชียร์ลีดเดอร์ เล่นสควอช โดยเปิดใจก่อนหน้านี้ว่าตำแหน่งนางสาวไทยเป็นความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในชีวิต

ด้านนางสิริภาวดี ศิริวรรณ มารดา “น้องโจอี้” กล่าวว่า ลูกสาวคว้ามาถึง 5 รางวัลรู้สึกภูมิใจมาก เพราะลูกอายุยังน้อย และไม่มีประสบการณ์ในการประกวดมาก่อน แม่เป็นผู้สนับสนุนในการประกวดครั้งนี้ ตอนวัยเด็กน้องโจอี้มีแววเป็นนางงาม เพราะทำกิจกรรมมาตลอด ล่าสุดเป็นดาวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังเป็นลีดเดอร์ให้คณะด้วย อุปนิสัยส่วนตัวของน้องเป็นลูกที่กตัญญูมาก ทราบว่าแม่ไม่ค่อยแข็งแรงจะช่วยขับรถให้เสมอ และเป็นคนเรียบง่าย ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ทำไร่ส้มอยู่ที่รังสิตและจ.กำแพงเพชร เป็นธุรกิจของครอบครัว น้องโจอี้เป็นบุตรสาวคนที่สอง จากลูกสาวทั้งหมด 4 คน

ส่วน “น้องโจอี้” เปิดใจอีกครั้งว่า ดีใจและเป็นเกียรติมากที่รับรางวัลอันทรงเกียรติ ตอนแรกไม่ได้คาดหวังเพราะเพื่อนทุกคนมีความสามารถ คิดว่ารอยยิ้มและความเป็นตัวของตัวเองที่ชนะใจกรรมการ จากนี้ไปจะตั้งใจทำงานเพื่อสังคม พุ่งเป้าช่วยเหลือไปที่เด็กเพราะเป็นพื้นฐานทางสังคม และตนก็เรียนทางด้านสังคมสงเคราะห์ คุ้นเคยและมีความรู้ดีพอช่วยเหลือสังคมในเชิงลึกได้ ตอนนี้พร้อมและจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ก่อนเข้ามาประกวดไปขอไว้กับอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ใน ร.ร.วชิราวุธวิทยาลัย หากมีโอกาสได้ทำงานทางด้านวงการบันเทิงก็ถือเป็นโอกาสและพร้อมจะรับไว้ และทำโอกาสนั้นให้ดีที่สุด

สำหรับ นางงามที่ประทับใจคือ “ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เป็นผู้หญิงทันสมัย เป็นทั้งพิธีกรและทำงานเพื่อสังคม ส่วนการมาประกวดครั้งนี้มีแม่เป็นคนผลักดันอยากให้ลองมาประกวดเวทีนางสาวไทย ที่สำคัญเวทีนี้ไม่ต้องสวมชุดว่ายน้ำ สำหรับหญิงไทยในความคิดของโจอี้มีรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าคนไทยจะยิ้มไม่สดใสเท่าไหร่เพราะสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่เมื่อคนไทยยิ้มจะเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างสัมภาษณ์ “น้องโจอี้” ต่อสายโทรศัพท์คุยกับคุณพ่อนายธีระพล กนกนทีสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร โดยโจอี้บอกกับคุณพ่อว่า “อยากกอดป๊า”

น้องโจอี้นางสาวไทย
น้องโจอี้นางสาวไทย
น้องโจอี้นางสาวไทย

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

''เจืองถิเมย'' (Trung Thi May) ตัวแทนเวียดนามไปประกวด Miss Earth 2009

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)ภาพ แฟชั่นสวยที่สุดอีกชุดหนึ่งของเจืองถิเมย (Truong Thi May) อีกไม่กี่วันต้องบึ่งไฟฟิลิปปินส์แล้ว พอหมดฤดูไต้ฝุ่น ก็จะเข้าสู่ฤดูแห่งการประกวด Miss Earth ของบรรดาสาวๆ ภายใต้สโลแกนเร้าใจ.."งามอย่างมีคุณค่า สวยอย่างมีจุดหมาย"

เวียดนามโล่งอก ปัดฝุ่นงามงามในสต๊อกได้อีกคนหนึ่ง ส่งประกวด Miss Earth 2009 เดือนหน้านี้ เรียกว่าคาบเส้นยาแดงผ่าแปด ก่อนจะเลยกำหนดเวลา ไม่งั้นก็จะหมดสิทธิ์ได้ร่วมวงเวทีซึ่งเฟ้นหาสาว “สวยอย่างมีคุณค่า งามอย่างมีจุดหมาย”

เจืองถิเมย (Truong Thi May) สาวลูกครึ่งเขมร จากจังหวัดที่ราบปากแม่น้ำโขงกำลังจะเดินทางไปฟิลิปปินส์ในเดือนหน้านี้เพื่อร่วมการประกวดที่จะจัดขึ้นที่เกาะสวาทหาดสวรรค์ จังหวัดโบราไค (Boracay) สาวเมยไม่กลัวบิกินี ไม่สะทกสะท้านต่อหาดทราย ไม่ขวบเขินต่อสายตาหลายร้อยคู่ที่จ้องมอง เพราะเป็นสิ่งที่ชินชาแล้

ก็สวยเสียอย่าง ใครจะทำไม?

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)สาวตาคมผมเข้มดำขลับของวงการ

เกิดที่ จ.อานซยาง (An Giang) ได้รองอันดับ 1 จากเวทีประกวดสาวงามชนชาติส่วนน้อยเวียดนาม 2550 (Miss Ethnic Vietnam 2007) พ่วงด้วยตำแหน่งรองอันดับ 1 จากการประกวดขวัญใจช่างภาพปี 2549 รับประกันคุณภาพคับเลนส์

ปัจจุบันอายุเพียง 21 ปี พิกัดแนวตั้ง 173 ซม. ไม่สั้นไม่ยาว กำลังพอดีๆ ปัจจุบันเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงในแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่นของเวียดนาม และ กลายเป็นดาราในที่สุด ไม่นานมานี้ได้เป็นนักแสดงนำฝ่ายหญิงในภาพยนตร์เรื่องแรกที่ชื่อ “แข่งแหลก” หรือ Duong dua ที่กำกับโดยจ่องหาย (Trong Hai)

หนังได้เข้ารอบการประกวดภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในเทศกาลภาพยนตร์เวียดนาม เข้าชิงกับอีก 2 เรื่อง ซึ่งจะประกาศผลในในปลายปีนี้

สาวงามผู้เข้าประกวด 89 คนจากทั่วโลกจะมีเพียงหนึ่งคนที่คว้าตำแหน่งมิสเอิร์ธประจำปี 2552 รองอีก 3 คนจะทำหน้าที่ต่างๆ กัน เวทีประกวดจัดขึ้นที่ Boracay Ecovillage Resort and Convention Center จ.โบราไค รู้ดำรู้แดงในคืนวันที่ 22 พ.ย.

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)เมยถ่ายภาพแฟชั่นล่าสุดในเดือน ก.ย.ปีนี้ คู่กับวีงทวี (Vinh Thuy) หนุ่มซูเปอร์โมเดล 2009 ฮอตที่สุดในเวียดนามวันนี้

มิสเอิร์ธ จะได้ทำหน้าที่เป็นโฆษกมูลนิธิฯ และเป็นทูตสันถวไมตรีของโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติหรือยูเอ็นอี พี (UN Environment Program) รวมทั้งองค์กรสิ่งแวดล้อมอื่นๆ อีจำนวนหนึ่ง

เมยอยู่ในสายตาของคนวงในมาตลอดเพราะเป็นนางงามที่เหลือในสตอกเพียงคนเดียว ที่ผ่านการประกวดเวทีระดับชาติ แต่ยังไม่เคยไปประกวดเวทีในต่างแดนมาก่อน

เกิดในกรุงพนมเปญเมื่อปี 2531 ในครอบครัวเวียดนามเชื้อสายเขมร กลับไปเติบโตที่บ้าน จ.อานซยาง และอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

มีไม่กี่คนที่รู้ว่าสาวเมยเป็นชาวพุทธที่เคร่งครัด วัดเป็นวัด งานเป็นงาน ตอนนี้ก็กำลังกินเจ และโดยปกติก็ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ คุณพ่อบวชเป็นพระ คุณแม่เป็นโยมอุปถาก ลูกสาวเป็นคนดูแลครอบครัว แบบชวนป๋วยปี่แปะกอ ดูแลการเรียนของน้องๆ อีกสองคน ต้องหาเงินตัวเป็นเกลียว

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
สาวเมยเป็นนางแบบที่ค่าตัวแพงที่สุดในยุคนี้ ผิวออกสีแทน นัยน์ตาดำขลับคมเข้ม ผมยาวหยักสลวยและวาววับเมื่อต้องแสงไฟบนเวที กับท่าเดินเหินที่ลงตัว มีสไตล์ หนักแน่น ผสมกับความพลิ้วไหว บนแค็ทวอร์ก ทำให้สาวเมยเป็นแม่เหล็กสำคัญสำหรับเวทีแฟชั่นโชว์ทุกๆ แห่ง

เมยทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน และ จะมี 2 วันเสาร์-อาทิตย์ ที่จะต้องอยู่กับครอบครัว ก่อนรับงานก็จะคิดคำนวณเรื่องนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน อยู่ที่ไหน จะต้องกลับบ้านในวันสุดสัปดาห์ อันเป็นวัตรปฏิบัติ

จะไปหาที่ไหนอีก สาวสวยที่มีคุณสมบัติเหล่านี้?

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)อยู่ในวงการยิ่งนานก็ยิ่งฮอต แต่มีภาระล้นบ่า ดูแลทั้งครอบครัว วันหยุดสัปดาห์หยุดสนิท เพื่อกลับบ้าน

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)ไม่ทานเนื้อก็สวยได้ หลายคนไม่ทราบว่าเจืองถิเมยเป็นสาวมังสะวิรัต เป็นกันทั้งครอบครัว

เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)ถ่ายกับเหวียนเฮืองซยาง สาวเฮืองอีกคนหนึ่งที่ไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2550 ในกรุงโตเกียว สองสีสองสไตล์ปะทะกันอย่างโดดเด่น
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)
เจืองถิเมย'' (Trung Thi May)สามภาพสุดท้ายนี้เจ้าตัวรักมากเป็นพิเศษ ถ่ายตั้งแต่เข้าวงการใหม่ยังดูละอ่อน

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ลูกครึ่งหัวใจไทย มิสทีนไทยแลนด์ 2009

มิสทีนไทยแลนด์ 2009
มิสทีนไทยแลนด์ 2009
มิสทีนไทยแลนด์ 2009และแล้วสาวน้อยลูกครึ่งวัยใสก็ได้ครองมงกุฎ "มิสทีนไทยแลนด์ 2009" ไป ตามคาดหมาย เธอชื่อ น.ส. เซฟฟานี่ อาวะนิค หรือแคท วัย 15 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเดอะ รีเจ้นส์ สคูล เกรด 11 นอกจากเธอจะเป็นสาวน้อยวัยใสที่สวยและน่ารักบนเวทีนี้แล้ว เธอยังได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ และตำแหน่งมิส เทรนดี้ ทีน บาย บลู คอนเนอร์ มาครองอีกด้วย

"แคท" หรือเซฟฟานี่ เป็นลูกสาวคนเดียวของนายรูเปียส และนางสมรัก อาวะนิค มีความใฝ่ฝันอยากเข้าวงการบันเทิง เป็นนางแบบ และแสดงละคร โดยมีเพื่อนๆ ชักชวนให้ลองเข้ามาประกวดมิสทีนไทยแลนด์เป็นเวทีแรก ซึ่งเธอก็สามารถทำได้ และแม้ว่าเธอจะเป็นลูกครึ่งแต่เธอบอกว่าหัวใจเธอรักความเป็นไทยมาก

เซฟฟานี่บอกว่า แม่จะสอนเรื่องมารยาทความเป็นไทยมาก โดยเฉพาะเวลาอยู่กับผู้ใหญ่ ให้รู้จักการไหว้ อ่อนน้อมถ่อมตน

" สำหรับความรู้สึกนั้นดีใจมากๆ และตื่นเต้นตอนประกาศผล คิดว่าสิ่งที่ชนะใจกรรมการ คือการเป็นตัวของตัวเอง ความพยายาม ตอนนี้อยากให้พ่อได้เห็นมงกุฎและอยากบอกพ่อว่า หนูทำได้แล้ว เพราะตอนนี้พ่ออยู่ออสเตรีย ทำงานเป็นวิศวกรอยู่ ส่วนแม่นั้นอยากขอบคุณที่สนับสนุน เป็นกำลังใจให้หนูมาโดยตลอดทำให้มีวันนี้ได้"

นอกจากมีความใฝ่ ฝันทำงานด้านบันเทิงแล้ว เซฟฟานี่ยังอยากเป็นสัตวแพทย์อีกด้วย เพราะเธอรักสัตว์มาก โดยเฉพาะสุนัข รวมทั้งอยากช่วยเหลือเด็กกำพร้า โดยเธอให้เหตุผลว่า เพราะทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด อยากให้พวกเขาได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิตเท่ากันทุกคน
"แคทห่วงวัยรุ่นในปัจจุบันด้วย ไม่อยากให้ทะเลาะกัน และพูดจากันเพราะๆ อยากให้คนไทยรักกัน มีความสามัคคี ถ้ามีปัญหาให้หันหน้ามาพูดคุยกัน รวมถึงการใช้ชีวิตของวัยรุ่นไทยกับอินเตอร์เน็ต ให้รู้จักการแบ่งเวลา ควรทำงานหรือการบ้านให้เสร็จก่อน และไม่ควรเอาเวลาว่างไปเล่นแต่อินเตอร์เน็ตอย่างเดียว ให้หันมาอ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์เพิ่มมากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการศึกษาเพราะเป็นสิ่งสำคัญมาก"

ถึงแม้ว่า ตอนนี้เธอจะได้รับภารกิจเป็นมิสทีนไทยแลนด์ แต่เธอบอกว่า จะไม่ทิ้งการเรียนเด็ดขาด และจะแบ่งเวลากับการรียนให้มากที่สุดอีกด้วย

แม้จะมีวัยเพียง 15 ปี แต่ความคิดความอ่านเธอไม่ด้อยไปกว่าอายุเลย

ชอยยอจิน ถ่ายหวิวรณรงค์ตรวจมะเร็งเต้านม

ชอยยอจิน
ชอยยอจินดาราสาวชาวเกาหลี "ชอยยอจิน" ออกมาสลัดผ้าถ่ายแฟชั่นชุดชั้นใน เป็นครั้งที่สองในรอบปีนี้ เพื่อโครงการสนับสนุนให้ผู้หญิงเฝ้าระวังโรคมะเร็งเต้านม

ดูเหมือนว่าโรคร้ายอย่าง มะเร็งเต้านม จะกลายเป็นโอกาสที่ดี สำหรับหนุ่มๆ ไปแล้ว ในการได้ยลภาพแนวเซ็กซี่ ที่ถ่ายเพื่อสนับสนุนโครงการเฝ้าระวังโรคร้ายดังกล่าว ซึ่งเป็นที่นิยมทำกันในหมู่คนดังทั้งในอเมริกา ยุโรป และเริ่มมีให้เห็นอย่างแพร่หลายในเอเชีย

ชอยยอจิน ดารานางแบบวัย 26 ที่เคยมีผลงานการแสดง อย่างบทสมทบ ในซีรี่ ลิขิตรักละลายใจ (The Snow Queen) ก็เป็นอีกคนที่ปล่อยงานลักษณะนี้ออกมา กับภาพแฟชั่นชุดชั้นในของ คาลวิน ไคลน์ ซึ่งถ่ายลงในนิตยสาร W Korea ฉบับที่จะวางแผงในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยอยู่ภายใต้โครงการ ที่มีชื่อว่า Breast Cancer Awareness เพื่อการเฝ้าระวังมะเร็งเต้านมของผู้หญิง

โดย ชอยยอจิน เธอเผยถึงจุดประสงค์ และความรู้สึกในการรับงานครั้งนี้ว่า "ฉันมีความสุขจริงๆ กับงานครั้งนี้นะคะ หวังว่ามันจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้หญิงหลายๆ ได้เริ่มต้นสังเกตร่างกายของตัวเอง เพื่อเป็นการระมัดระวังไว้ เพื่อจะได้ค้นพบโรคมะเร็งเต้านมตั้งแต่มันยังอยู่ในระยะเริ่มต้น"

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Sens Time By Touch Clock For The Blind Is Sexy And Round

ClockSwatch develops some awesome concepts and this is no exception. Designed by Arnaud Lapierre, it is a high fashion clock for the blind called Sens Time by Touch. Though there are many solutions for time keeping for the visually impaired, this concept goes a long way to push for style and functionality.

The clock has a Braille twelve-hour marker on its outermost surface and this serves as the main calibration point for time keeping. The device consists in total of three concentric circles; the two closest to the exterior are ceramic and the furthest inset is clear plastic. The time is revealed by the distance the twelve-hour marker is from the second ceramic ring, the plastic ring is used to set the alarm using the same principal. We love the fact that the design is elegant and not butt ugly—like most time keeping gadgets for the blind tend to be. In fact, we like the presentation of it so much we would love to have one of these up on our desk, because if there is anything we love more than warm, sweet, syrup filled macaroons, it's enigmatic, ceramic timepieces.

คริส หอวัง

คริส หอวัง
คริส หอวัง
คริส หอวัง
คริส หอวัง
คริส หอวัง
คริส หอวัง
คริส หอวัง
คริส หอวังมาแรงแซงทางโค้งจริง ๆ สำหรับภาพยนตร์รักโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ก็แหม...ได้หนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ ทั้งประเทศอย่าง "เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" ประกบคู่กับสาวหมวยสุดมั่น "คริส หอวัง" ที่โดนจับตามองและถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดในเวลานี้ เพราะความน่ารัก เปิ่น ๆ ซื่อ ๆ ของ คริส หอวัง ทำเอาโดนใจหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่สาว ๆ และอยากจะรู้จักเธอมากยิ่งขึ้น วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุก ๆ ไปทำความรู้จักกับ คริส หอวัง กันค่ะ

คริส หอวัง มีชื่อจริงว่า ศิริน หอวัง สาวหน้าหมวยคนนี้ เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2523 (1980) จบการศึกษาจาก California Institute of Arts LA, USA (สาขาบัลเลต์ชั้นสูง) และ Royal Academy of Dance ประเทศอังกฤษ มีน้องสาว 1 คน ก็คือ "พลอย หอวัง" หนึ่งในสมาชิกวงโปรเจ็ค เอช นั่นเอง

โดย คริส หอวัง เล่าถึงที่ไปที่มาในการเรียนสาขาบัลเลต์ชั้นสูงว่า คริส ไม่คิดว่าชีวิตมันจะมีอะไรที่เป็นแบบแผน ว่าถึงตอนไหนต้องทำอะไร ตอนอายุ 6-7 ขอบ คริส บอกพ่อว่าจะไม่เรียนหนังสือแล้ว จะเต้นอย่างเดียว พ่อก็ตกใจ ตอนเด็ก ๆ คริสเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่ชอบเรียน ก็โดดเรียนบ่อย ๆ แต่ไม่เคยโดดเรียนบัลเล่ต์เลย ทั้งที่เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ไปเที่ยว ที่สุดแม่เลยปรึกษาพ่อว่า ถ้าอยากให้เรียนก็ส่งไปเรียนโรงเรียนเฉพาะ ที่สอนเต้นและยังเรียนไปด้วย สุดท้ายทางบ้านจึงส่งไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา

คริส หอวัง เริ่มก้าวเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 14 ปี ด้วยการถ่ายโฆษณา ก่อนที่ คริส หอวัง จะหันหลังให้กับวงการ เพราะต้องการไปศึกษาต่อด้านการเต้น โดยเธอเริ่มเรียนเต้นบัลเล่ต์มาตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ จากนั้นก็ค้นพบว่าตัวเองรักการเต้น แถมยังยังมีพรสวรรค์ในด้านนี้เป็นอย่างดี เธอจึงมุ่งหน้าเรียนอย่างจริงจังแบบมืออาชีพ แต่เธอก็ยังเข้า ๆ ออก ๆ วงการบันเทิง และโผล่หน้ามาให้เห็นบ้างประปลาย จนกระทั่งเข้ามารับหน้าที่เป็นดีเจประจำให้กับคลื่นอ้วน 104.5 แฟต เรดิโอ พร้อม ๆ กับเป็นครูสอนเต้นรำที่ International School Bangkok (ISB) ยังไม่หมดเท่านั้น คริส หอวัง ยังรับงานอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายแบบนิตยสาร นางเอกมิวสิควีดีโอ พรีเซ็นเตอร์สินค้า นักร้อง ในลุกส์สาวสมัยใหม่ที่มั่นใจในตัวเอง จนไปเข้าตาผู้กำกับภาพยนตร์ ชักชวนให้มาลองแสดงภาพยนตร์รักโรแมนติกปนขำเรื่อง "อีติ๋มตายแน่" คู่กับ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” ซึ่ง คริส หอวัง ก็ไม่ทำให้ใคร ๆ ผิดหวังในฝีมือ เพราะเธอรับบทเป็น "มะขิ่น" กะเหรี่ยงสาว ได้อย่างแนบเนียน

" ทีแรกพอรู้ว่าจะได้มาเล่นหนังที่พี่โน้สเขียนบท พี่ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค กำกับ ก็อดดีใจและตื่นเต้นไม่ได้ เพราะคริสอยากร่วมงานกับพี่ต้อมมาก คือมันเป็นประสบการณ์ชีวิตค่ะ ว่าจะมีกี่ครั้ง ที่พี่ 2 คนเขามาร่วมงานกัน มาทำงานด้วยกัน ก็เลยถามพี่ต้อมว่าคริสเล่นได้จริง ๆ เหรอคะพี่ต้อม พี่ต้อมบอกคริสไม่ต้องทำอะไร โน้สบอกว่าคริสหน้าเหมือนกะเหรี่ยง เลยยังงง ๆ ว่าที่ได้เล่นนี่ฝันไปรึเปล่า" คริส หอวัง เปิดใจ

และผลจากหนัง อีตี๋มตายแน่ นี่เอง ที่ทำให้ "ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม" ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ชักชวนให้ คริส หอวัง มารับบทเป็น "เหมยลี่" สาวหมวยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 30 ปี ชนิดที่ไม่เคยต้องมือชาย โดย คริส หอวัง เล่าว่า ในเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ คริสรับบทเป็น เหม่ยลี่ สาววัย 30 ที่ยังไม่เคยมีแฟน มาจากครอบครัวที่เคร่งครัด สอนว่าห้ามจีบผู้ชายก่อน แล้ววันหนึ่งเกิดเรื่องบังเอิญไปเจอผู้ชายคนหนึ่งชื่อ ลุง รับบทโดย พี่เคน-ธีรเดช เป็นวิศวกร หน้าตาดี หล่อมาก เหม่ยลี่ เลยคิดว่าฉันต้องทำอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นชีวิตต้องอยู่คนเดียวแน่ ๆ รถไฟขบวนสุดท้ายขบวนนี้ จึงต้องจับไว้ให้มั่น เรื่องราวสนุก ๆ น่ารักจึงเกิดขึ้นมากมาย

" การร่วมงานกับพี่เคนครั้งนี้ไม่ทำให้คริส ผิดหวังจริง ๆ ตอนแรกคิดว่าเขาคงเป็นซูเปอร์สตาร์ที่เข้าถึงยาก แต่พอเจอกันวันแรก พี่เคนไม่ถือตัวเลย น่ารักมาก หัวเราะเสียงดัง เป็นกันเอง และแสดงเก่งมาก แค่ยืนอยู่เฉย ๆ ก็หล่อแล้ว เวลาเข้าฉากด้วยกันทีไร คริส ก็จะเกร็ง ๆ ตอนหลังเริ่มชิน พี่เคนช่วยเรื่องแสดงได้เยอะ ทำให้เรากล้าเล่นเต็มที่ แต่อุปสรรคที่ คริส เจอบ่อยที่สุดเวลาเข้าฉากกับพี่เคนก็คือ ประชาชนที่เห็นพี่เคนเข้าฉากจะหยุดยืนมองแล้วกรี๊ด ทำให้พวกเรารู้เลยว่า เขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ตัวจริง เป็นที่รักของทุกคน" คริส หอวัง เผย

ส่วนเรื่องหัวใจ งานนี้ต้องขอบอกว่าหนุ่ม ๆ คงอกหักกันเป็นแถว เพราะ คริส หอวัง กำลังปลูกต้นรักกับนักร้องสุดแนว "กุ๊ยอุ๋ย-นที เอกวิจิตร์" แห่งวง "Buddha Bless" ซึ่งก็มีเสียงเม้าท์ถึงความไม่เข้ากัน ดูแบบคนละฝั่งมากเลย แต่สาว คริส หอวัง กลับบอกว่า ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น มันเป็นเรื่องขำ ๆ มากกว่า เพราะ คริส ขอแค่เป็นคนดีก็พอแล้ว เป็นแฟนที่ดี อยู่ด้วยทำให้เราหัวเราะได้ ทำให้เรามีความสุขก็น่าจะโอเคแล้ว หลายคนคิดว่าอยากมีคนเลี้ยงตลอดชีวิต แต่ถ้าผู้ชายรวยแล้วไม่รักเรา เจ้าชู้ทิ้งขว้างจะมีไปทำไม

" คริสเจอกับอุ๋ยที่แกรมมี่ คริส ไปสอนเต้นรำ แล้วก้านคอคลับทำเพลงให้น้องที่สอน เราเลยเจอกัน เพราะ คริส ต้องเป็นคนคิดท่า แล้วเขาทำเพลง ซึ่งพอหลังจากซ้อมเสร็จเราก็ไปกินข้าวกัน แต่ตอนแรก คริส ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย แล้วเขาก็เริ่มมาคุย ก็ตลก แล้วน่ารักดีค่ะ คือเขาไม่ได้เป็นเจ้าชายเดินมาแล้วเปิดประตูรถให้เหมือนแบบโฆษณา หรือในทีวีอย่างนั้น มันไม่มี แต่มันค่อย ๆ ซึมมา อย่างเช่น เขาเป็นคนที่รักสัตว์มาก ๆ ไม่เคยทำร้ายสัตว์เลย เขาเป็นคนที่เคร่งศาสนาสุด ๆ คือ ถ้าเหยียบสัตว์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เป็นไร หรือมีมดอยู่ในกระติกน้ำแล้วเขาจะต้มน้ำร้อน เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอามดตัวนั้นออกมา ยุงก็ไม่ตบ คือเยอะกว่าหนูอีกนะ นั่นคือสิ่งที่เขามี" คริส หอวัง เล่าถึงความรัก

ประวัติ
ชื่อ-สกุล : ศิริน หอวัง
ชื่อเล่น : คริส
วัน/เดือน/ปีเกิด : 5 กรกฏาคม 2523


การศึกษา
- AreeDanceSchool
- โรงเรียนนานาชาติ ร่วมฤดี (RIS)
- Walnut hill Performance arts School Boston USA
- California Institute of Arts LA, USA


ผลงาน
- ถ่ายโฆษณา
- ถ่ายแบบในนิตยสาร
- ถ่ายมิวสิควีดีโอ
- เขียนหนังสือให้คำแนะนำวัยรุ่นกับ พลอย หอวัง ชื่อ "แรกรัก เริ่มเดท"

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เสื้อกันหนาวกับหน้าหนาว

ช่วง นี้เริ่มหนาวแล้ว สาว ๆ คงจะหันมาสวมใส่เสื้อกันหนาวกัน เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เราเลยมีคำแนะนำเล็กน้อยในการเลือกซื้อเสื้อกันหนาวม าฝากกัน...
เสื้อกันหนาว

การเลือกเสื้อกันหนาว

1. คุณสมบัติของเส้นใย ควรที่คำนึงถึงเป็นสิ่งแรกเลย โดยควรเลือกเส้นใยที่มาจากธรรมชาติ เพราะเส้นใยที่ได้มาจากธรรมชาติ เช่นพวกขนสัตว์ จะให้ความอบอุ่นได้ดีกว่าเส้นใยสังเคราะห์ และถ้าตัวเราชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสื้อกันหนาวที่ทำด้วยขนสัตว์ก็สามารถระบายอากาศได้ด ีกว่าเส้นใยสังเคราะห์ แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกซื้อเสื้อกันหนาวที่ทำมาจากขนส ัตว์ แนะนำว่าขนแกะดีที่สุด ผสมกับอะครีลิกในอัตราส่วน 60:40 เพื่อความคงทนต่อการใช้งาน และยังง่ายต่อการเก็บรักษา

2. ไม่ควรจะเลือกที่มันรัดรูปจนเกินไป (เพราะอาจทำให้หายใจไม่ออกได้) ควรจะเลือกที่ใหญ่กว่าตัวเราเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความสบายตัวและคล่องตัว

3. ไม่ควรจะซื้อเสื้อกันหนาวที่ยาวเกินตัวมาก ๆ เพราะจะทำให้เราดูตัวใหญ่และลุ่มล่าม และไม่ควรสั้นไปด้วย แต่ถ้าหากต้องการที่จะซื้อเสื้อโค้ต ก็ควรที่จะมีความยาวที่ประมาณ 3/4 ของลำตัว

4. สีสันก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ควรเลือกโทนสีที่เป็นธรรมชาติ เช่น น้ำตาล ครีม ดำ เป็นต้น เพราะจะสามารถแมทซ์กับทุกชุดได้ แต่ถ้าหากต้องการที่จะซื้อสีสันที่สดใสก็ควรเลือกให้ เหมาะกับชุดที่ใส่ด้วยนะคะ จะได้ดูไม่เข้ากัน

5. ผ้าบุข้างในควรเลือกที่เป็นโพลีเอสเตอร์ เพราะจะง่ายต่อการเก็บรักษา

6. ถ้าหากซื้อเสื้อกันหนาวมือสองก็ควรที่จะนำไปทำความสะอาดก่อนนำมาสวมใส่ ด้วยการนำไปต้มในน้ำร้อน แล้วซักให้สะอาด และนำไปตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจติดอยู่

เสื้อกันหนาว
เสื้อกันหนาว
เสื้อกันหนาว
TIP เล็ก ๆ

ควรหาผ้าพันคอมาใส่ด้วย เพราะนอกจากจะเพิ่มความอบอุ่นให้กับคอของเราแล้ว ยังสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเราอีกด้วย

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

 
free counters